การสร้างทีมงาน Team - Building
การทำงานในสมัยปัจจุบันหรือการบริหารงานแนวใหม่นี้จะทำแบบ“ข้ามาคนเดียว” หรือ “วันแมนโชว์” หรือ“ศิลปินเดี่ยว” หรือ “อัศวินม้าขาว” หรือ …อื่น ๆ ดูจะเป็นไปได้ยาก อย่าว่ากันถึงการทำงานในองค์การ ที่มีบุคลากรหลายๆ คน การทำงานที่โชว์เดี่ยว เช่น กีฬา มวย นักร้อง นักแสดง นางงาม ที่เป็นแชมเปี้ยน หรือที่ได้รับการยกย่อง ชมเชย และได้รับผลตอบแทนสูง เบื้องหลังความสำเร็จมีคนเป็นจำนวนมาก แม้แต่นักยกน้ำหนักเหรียญทองโอลิมปิค บอกได้ว่าความสำเร็จของเขาครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเขาเพียงคนเดียว
แต่เพราะทีมงาน ผู้จัดการ ผู้ฝึกซ้อม ผู้ดูแล และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ อีกมาก รวมทั้งเพื่อน พ่อแม่ และประชาชนทุกคนที่เป็นกำลังใจ
(TEAM) ตามพจนานุกรมภาษาอังกฤษ-ไทย แปลว่า “เทียม” (ม้า) ชุดม้าที่เทียมเข้าด้วยกัน ,ชุดกีฬา,คณะผู้เล่น เอามาทำร่วมกัน, คณะที่ทำงานร่วมกัน , แบ่ง (งาน) ออกให้คนทำเป็นหมู่ ๆ
กล่าวโดยสรุป เป็นการทำงานของคนหลาย ๆ คนร่วมกันทำ และทำให้งานสำเร็จ
ส่วนจะออกมาดีหรือไม่ดีมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ทีมงาน” ที่ทำงานนั้น ๆ นั่นเอง
ความหมายของการสร้างทีม
การสร้างทีมงาน (
วิธีการการสร้างทีมอาจทำได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
พัฒนาความสัมพันธ์ในการทำงาน
พัฒนาศักยภาพของทีมงาน
การทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้กับสมาชิกทุกคนในทีม
การปรับปรุง สิ่งจูงใจ การสื่อสาร การสนับสนุน และความเชื่อถือ ภายในทีม
ความสำคัญในการสร้างทีมงาน
การสร้างทีมงานเป็นกระบวนการสร้างความสัมพันธภาพในกลุ่ม
มุ่งปรับปรุงคุณภาพความสัมพันธ์ที่มีอยู่ต่อกันระหว่างสมาชิก ให้มีประสิทธิผลของกลุ่มสูงขึ้นได้ เพื่อมีการวางแผนที่มีจุดมุ่งหมายในการปรับปรุงหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพผ่านการวิเคราะห์อย่างมีระบบและได้การยอมรับในหน่วยงาน
ในการสร้างทีมงานมีวัตถุประสงค์พื้นฐานในการปรับปรุงความสามารถในการแก้ปัญหาระหว่างสมาชิกของกลุ่มด้วยการทำงานร่วมกันตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ วัตถุประสงค์ประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1. สมาชิกทุกคนมีความเข้าใจบทบาทของตนดีขึ้นในการทำงานเป็นกลุ่ม
2. มีความเข้าใจดีขึ้นเกี่ยวกับ “ธรรมนูญ” หรือกฎข้อบังคับของกลุ่ม
นั้นคือวัตถุประสงค์และบทบาทในการทำงานทั้งหมดในองค์การ
3. เพิ่มพูนการสื่อสารในระหว่างสมาชิกของกลุ่มเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ
ที่จะมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของกลุ่ม
4. ความสนับสนุนซึ่งกันและกันเพิ่มขึ้นในระหว่างสมาชิกของกลุ่ม
5. ความเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งเกี่ยวกับกระบวนการกลุ่ม เช่น พฤติกรรม
และความสัมพันธ์ของกลุ่มที่มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
6. วิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มทั้งระดับที่เกี่ยวกับการทำงานโดยตรงและระดับที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในระหว่างบุคคล
7. ความสามารถที่จะใช้ความขัดแย้งไปในทางสร้างสรรค์มากกว่าทางทำลาย
8. การร่วมมือร่วมใจมากขึ้นระหว่างสมาชิกของกลุ่มและการลดการแข่งขันลง
ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างมากต่อบุคคล ต่อกลุ่มและต่อองค์การ
9. การเพิ่มพูนความสามารถของกลุ่มที่จะทำงานร่วมกับกลุ่มอื่น ๆ ในองค์การ
10. มีความรู้สึกของการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันในระหว่างสมาชิกของกลุ่ม
ทีมงานที่มีประสิทธิภาพควรมีลักษณะ
1. ทีมงานที่ทำงานเพื่อเป้าหมายร่วมกัน
2. มีความขัดแย้งระหว่างสมาชิกน้อยมาก
3. สมาชิกแต่ละคนมีพฤติกรรมสนับสนุนกันและกัน
4. การติดต่อสื่อสารเป็นไปโดยเปิดเผย
5. สมาชิกทำงานร่วมกันเกี่ยวกับเป้าหมายต่าง ๆ ขององค์การ