ตำนาน WALK RALLY
ปัจจุบันนี้เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเคยได้สัมผัสกับกิจกรรม WALK RALLY มาบ้างไม่มากก็น้อย แต่จะมีซักกี่คนเล่าที่จะรู้ถึงประวัติความเป็นมาและความสำคัญของกิจกรรม WALK RALLY นี้อย่างแท้จริง ดังนั้นเราจึงจะพาทุกท่านย้อยกลับไปที่จุดเริ่มต้นแห่งตำนาน WALK RALLY กันเลยคะ
กิจกรรม WALK RALLY มีจุดเริ่มต้นจากสมัยโบราณ กรีก-โรมัน เมื่อเสร็จสิ้นภาระศึกสงคราม พระราชาจะจัดกิจกรรมขึ้นเพื่อทดสอบกำลังทางร่างกายและทดสอบไหวพริบของทหารระดับหัวหน้า ซึ่งจะกำหนดให้เส้นเดินทางและเวลาที่กำหนดโดยใช้ม้า ระหว่างเส้นทางจะพบกับอุปสรรคต่าง ๆ หรือการสร้างกลลวงที่ซับช้อน หากใครทำได้ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ก็จะมีรางวัลให้พร้อมกับปรับขึ้นตำแหน่งสูงต่อไป
ต่อมาประเทศญี่ปุ่นได้นำแนวคิดมาปรับใช้ในการทำงาน โดยนายชิเกรุ โคบายาชิ เป็นผู้จัดการบริษัท โซนี่ เมืองอัสฮีกิ เค้าได้ศึกษาวิธีการบริหารเพื่อแก้ไขการขาดทุนของบริษัท พบว่าการบริหารงานของแต่ละหน่วยงานขาดการประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง และจิตสำนึกที่ดีในการทำงานและองค์กร หรือกล่าวสั้น ๆ คือการทำงานเป็นทีม ซึ่งต่างกับทางด้านตะวันตกจะเน้นในเรื่องการทำงานเป็นทีม จึงจัดกิจกรรม WALK RALLY ขึ้น โดยเน้นการเรียนรู้และปฏิบัติด้วยตนเองและการทำงานร่วมกัน การจัดการรูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสมบนพื้นฐานสภาพความเป็นจริง และปรากฏว่าได้ผลเกินคาด บริษัทก็ฟื้นตัวและมีกำไรอย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทยจากที่ได้เปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติเข้ามาดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น แนวคิดและวิธีการจัดการบริหารต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น คณะที่ปรึกษาด้านเทคนิคชาวญี่ปุ่นของบริษัท ไทยบริดสโตน จำกัด ได้นำเอากิจกรรม WALK RALLY มาปรับใช้เพื่อให้เกิดการทำงานเป็นทีมเพิ่มมากขึ้น โดยเน้นที่กลุ่มระดับหัวหน้างานต้องเข้าร่วมกิจกรรม WALK RALLY ทุกคน และกลุ่มปฏิบัติการทุกคน ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน ต่อมากลุ่มของเครือฃีเมนต์ไทย ได้นำกิจกรรม WALK RALLY มาใช้ในหน่วยงาน และได้แพร่ขยายไปสู่หน่วยงานในระดับชั้นนำอย่างรวดเร็ว
ปรัชญาของกิจกรรม WALK RALLY
SEE ---> การมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของปัญหาที่เกิดขึ้น
THINK ---> คิดค้นหาหนทาง วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
PLAN ---> วางแผนเพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด
DO ---> ดำเนินจัดการตามแผนที่วางไว้พร้อมทั้งตรวจสอบความบกพร่อง
ความสำคัญกิจกรรม WALK RALLY
การเรียนรู้ที่ดีที่สุดของมนุษย์คือการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ซึ่งไม่มีใครสอนสอนประสบการณ์นั้นให้ได้ แต่ประสบการณ์ตรงต้องเกิดจากการได้ลงมือปฏิบัติจริง ทดลอง หรือการลองผิดลองถูก หรือที่เรียกว่า “ Learning by Doing “ ผู้ที่เขารับการฝึกอบรมจะได้ลงมือทำกิจกรรมและสามารถเรียนรู้จากสิ่งที่ปรากฎใน กรณีต่างๆ โดยแท้จริงแล้วธรรมชาติของมนุษ์แล้วนั้นจะมีความแตกต่างกันโดยนัยสำคัญ และในบางครั้งความตกต่างหรือความขัดแย้งก็ย่อมทำให้เกิดอะไรขึ้นใหม่ ๆ เช่นเกิดทฤษฎีใหม่ แนวทางปฏิบัติใหม่ และในทางกลับกันอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งส่งผลทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานเป็นทีมลดลง ล้วนก่อให้เกิดปัญหา เช่น คนในองค์กรขาดความสมัครสมานสามัคคีกัน ขาดการประสานงานที่ดี ขาดประสิทธิภาพของการสื่อสารในองค์กร ขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ขาดการเป็นผู้นำที่ดีและผู้ตามที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาแล้ว หากมีการฝึกอบรมในห้องเรียนปกติก็คงไม่ได้ผลเท่าที่ควร เหตุเพราะเขาเหล่านั้นต้องได้เรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดพลังทีมอันยิ่งใหญ่ในการพัฒนางานและพัฒนาองค์กร
ประโยชน์ของ Walk Rally
เรียนรู้หลักการและเงื่อนไขของการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม
ฝึกให้เป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ดี
ฝึกให้รู้จักวางแผน แก้ปัญหาและตัดสินใจร่วมกัน
ฝึกให้เข้าใจตนเอง ผู้อื่น และอุทิศตน และเสียสละให้ผู้อื่น
ฝึกการสื่อสาร การสั่งงาน การกระจายงาน และมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ฝึกให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ฝึกให้เชื่อมั่นในตนเอง กล้าแสดงออก
ความคิดเห็น